odoo ให้บริการ โดยผู้เชี่ยวชาญ

7 มกราคม ค.ศ. 2025 โดย
Administrator

การปรับใช้ Odoo ERP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันทางธุรกิจเข้มข้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การจัดการทรัพยากรในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ธุรกิจจำนวนมากจึงหันมาใช้ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) เพื่อบริหารจัดการข้อมูลและกระบวนการภายในให้อยู่ในระบบที่มีความเป็นระเบียบ ช่วยให้มองเห็นภาพรวมทั้งองค์กรได้อย่างชัดเจน ติดตามการทำงานได้รวดเร็ว และวางแผนกลยุทธ์ได้ดียิ่งขึ้น หนึ่งในโซลูชัน ERP ที่ได้รับความนิยมและถูกยกย่องอย่างกว้างขวางก็คือ Odoo เนื่องจากเป็นระบบแบบ Open Source ที่ยืดหยุ่นสูง มีโมดูลครอบคลุมเกือบทุกกระบวนการทางธุรกิจ จัดการได้ทั้งการขาย การผลิต การบัญชี การตลาด การบริหารทรัพยากรบุคคล และอื่น ๆ อีกมากมาย บทความนี้จะอธิบายให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ Odoo เป็นเครื่องมือสำหรับบริหารธุรกิจ พร้อมกล่าวถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับ Odoo ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การติดตั้ง ปรับแต่งระบบ ไปจนถึงการฝึกอบรมและซัพพอร์ต เพื่อช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของคุณก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ความสำคัญของ ERP และจุดแข็งของ Odoo

ERP หรือ Enterprise Resource Planning คือระบบที่ใช้ในการรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลกระบวนการธุรกิจต่าง ๆ ภายในองค์กรให้อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการสินค้า การขาย การเงิน การบัญชี การผลิต การบริหารทรัพยากรบุคคล และระบบอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงถึงกัน ข้อมูลที่อัปเดตเรียลไทม์ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลและความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานด้วยวิธีดั้งเดิม

ในหมู่โซลูชัน ERP ที่มีอยู่มากมาย Odoo โดดเด่นเป็นพิเศษเพราะเป็น Open Source นั่นหมายความว่า Odoo เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งฟีเจอร์ต่าง ๆ ตามความต้องการของธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น นอกจากนี้ Odoo ยังมีระบบโมดูล (Modules) ที่หลากหลาย รองรับแต่ละแผนกการทำงานได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่โมดูลสำหรับ CRM (Customer Relationship Management) โมดูลขาย โมดูลบัญชี การเงิน ไปจนถึงโมดูลสำหรับการทำ E-commerce และการตลาดดิจิทัล การที่ Odoo สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโมดูลได้โดยอัตโนมัติ จึงทำให้กระบวนการทำงานภายในองค์กรมีความรวดเร็วและแม่นยำสูง อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับโซลูชัน ERP ที่เป็นเชิงพาณิชย์ (Commercial) ที่อาจมีค่าลิขสิทธิ์หรือค่าบริการสูงกว่า นั่นทำให้ Odoo เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทั้งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่


ฟังก์ชันและโมดูลหลักของ Odoo

Odoo มีโมดูลหลักที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกระบวนการต่าง ๆ ในธุรกิจอย่างครอบคลุม ตัวอย่างโมดูลเด่น ๆ ได้แก่

  1. CRM (Customer Relationship Management)
    ช่วยให้คุณติดตามความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า รวบรวมข้อมูลลูกค้า การติดต่อ การเสนอราคา ไปจนถึงการวิเคราะห์โอกาสการขาย ทำให้ทีมขายสามารถบริหารงานขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. Sales
    เน้นการสร้างใบเสนอราคา (Quotation) การทำใบสั่งขาย (Sales Order) การจัดการกระบวนการขายก่อน-หลังการขาย ช่วยให้การขายสินค้าและบริการเป็นไปอย่างราบรื่น
  3. Accounting
    ระบบบัญชีที่เชื่อมโยงอัตโนมัติกับโมดูลอื่น ๆ เช่น การขาย การจัดซื้อ และสินค้าคงคลัง ช่วยอัปเดตข้อมูลการเงินได้แบบเรียลไทม์ ลดข้อผิดพลาดในการบันทึกบัญชี และอำนวยความสะดวกให้ผู้บริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมั่นใจ
  4. Inventory
    บริหารจัดการสินค้าคงคลัง การเคลื่อนไหวของสินค้า การจัดเก็บ ออเดอร์ การส่งมอบ ติดตามข้อมูลได้แม่นยำ ช่วยป้องกันสต๊อกขาดหรือเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. Purchase
    จัดการกระบวนการสั่งซื้อ (Purchase Order) การเปรียบเทียบราคาจากซัพพลายเออร์ การควบคุมงบประมาณ ทำให้ธุรกิจใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและตรวจสอบได้ง่าย
  6. Manufacturing
    เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการผลิตสินค้า สามารถกำหนดสูตรการผลิต (Bill of Materials) วางแผนการผลิต กำหนดขั้นตอน และติดตามผลการผลิตแบบเรียลไทม์
  7. Project Management
    สำหรับการติดตามโปรเจกต์ งาน และกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์กร ช่วยให้สมาชิกในทีมเห็นสถานะงานร่วมกัน วางแผนระยะเวลาและทรัพยากรได้เป็นระบบ
  8. HR (Human Resources)
    ช่วยบริหารจัดการข้อมูลบุคคล การเก็บประวัติพนักงาน การคำนวณเงินเดือน การลา การบันทึกเวลาทำงาน การประเมินผลงาน ทำให้ฝ่ายบุคคลสามารถจัดการงาน HR ได้อย่างเป็นระบบ
  9. E-commerce & Website
    สำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างเว็บไซต์และระบบร้านค้าออนไลน์ (Online Store) สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบหลังบ้าน เช่น การขายและสินค้าคงคลังได้ในทันที
  10. Marketing
    ช่วยบริหารแคมเปญการตลาด การส่งอีเมลแบบเป็นกลุ่ม การติดตามผลลัพธ์ของแต่ละแคมเปญ รวมถึงการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ

ด้วยโมดูลที่หลากหลายและยืดหยุ่น Odoo จึงสามารถรองรับกระบวนการที่แตกต่างกันไปตามลักษณะธุรกิจ และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานเลือกระบบเฉพาะฟังก์ชันที่ต้องการก่อน แล้วค่อยขยับขยายเพิ่มเติมภายหลังเมื่อธุรกิจเติบโต


เหตุผลที่ธุรกิจควรพิจารณาใช้ Odoo

1. ความยืดหยุ่นสูง: Odoo เป็นระบบ Open Source ทำให้เข้าถึงซอร์สโค้ดได้โดยตรง เปิดโอกาสให้โปรแกรมเมอร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีปรับแต่งแอปพลิเคชันหรือสร้างโมดูลใหม่ได้ตามต้องการ ธุรกิจจึงสามารถออกแบบระบบ ERP ให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานของตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้พัฒนารายเดียว

2. การเชื่อมโยงข้อมูลอัตโนมัติ: เมื่อทำงานผ่านโมดูลต่าง ๆ ของ Odoo ข้อมูลจะถูกซิงโครไนซ์กันแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการขาย การซื้อ หรือการผลิต ทำให้ผู้จัดการหรือผู้เกี่ยวข้องสามารถรับทราบสถานะปัจจุบันของกระบวนการในธุรกิจได้ตลอดเวลา

3. ประหยัดค่าใช้จ่าย: เนื่องจาก Odoo เป็นระบบ Open Source ค่าใช้จ่ายหลักจะอยู่ที่การติดตั้งและบำรุงรักษา หรือค่าปรับแต่งตามความต้องการของธุรกิจ ซึ่งเมื่อเทียบกับ ERP เชิงพาณิชย์อื่น ๆ ที่มีค่าลิขสิทธิ์สูง Odoo มักจะคุ้มค่าในระยะยาว

4. รองรับการขยายตัว: Odoo ถูกออกแบบมาให้สามารถเริ่มต้นด้วยโมดูลไม่กี่ตัวสำหรับธุรกิจเล็ก ๆ แต่เมื่อเติบโตขึ้น สามารถเพิ่มโมดูลใหม่ ๆ เข้าไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์มทั้งหมด ลดความยุ่งยากและความเสี่ยงในการเปลี่ยนระบบกลางคัน

5. ชุมชนผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง: Odoo มีชุมชนขนาดใหญ่ทั่วโลก ทั้งผู้ใช้งานและนักพัฒนา นั่นทำให้มีฟอรัมคู่มือและปลั๊กอินเสริมหลากหลายรูปแบบ ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูล แบ่งปันประสบการณ์และซอร์สโค้ดกันได้ ทำให้การแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนาระบบเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

ขั้นตอนการติดตั้งและปรับใช้ Odoo

เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ Odoo ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการวางแผนและดำเนินการติดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยทั่วไปมักจะแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

  1. การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirement Analysis)
    เริ่มต้นด้วยการประเมินว่าธุรกิจต้องการฟังก์ชันอะไรบ้าง ปัญหาหลักที่ต้องการแก้ไขคืออะไร และมีแผนจะต่อยอดระบบในอนาคตอย่างไรบ้าง การวิเคราะห์ความต้องการอย่างละเอียดจะช่วยให้เลือกรุ่นและโมดูลของ Odoo ที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น
  2. การออกแบบระบบ (System Design)
    หลังจากได้ข้อสรุปด้านความต้องการแล้ว จะมีการออกแบบโครงสร้างฐานข้อมูล กำหนดเวิร์กโฟลว์ภายในระบบ และวิธีการเชื่อมโยงโมดูลต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมกระบวนการทำงานของธุรกิจ
  3. การติดตั้งและตั้งค่า (Installation & Configuration)
    ติดตั้ง Odoo บนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรหรือบน Cloud ตามความเหมาะสม จากนั้นทำการตั้งค่าโมดูลต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานของธุรกิจ อาทิ การกำหนดหน่วยงาน โครงสร้างพนักงาน บัญชีการเงิน และอื่น ๆ
  4. การปรับแต่ง (Customization)
    สำหรับธุรกิจบางประเภทที่มีกระบวนการเฉพาะเจาะจง อาจจำเป็นต้องปรับแต่งหน้าตาและฟังก์ชันของ Odoo เพื่อรองรับความต้องการพิเศษ เช่น การปรับเปลี่ยนฟอร์มเอกสาร การสร้างโมดูลเสริม หรือการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ที่มีอยู่
  5. การฝึกอบรมผู้ใช้งาน (User Training)
    เมื่อระบบพร้อมใช้งานแล้ว การฝึกอบรมพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง พนักงานควรเข้าใจวิธีการใช้งานแต่ละโมดูล การบันทึกข้อมูลอย่างถูกต้อง และการเรียกดูรายงานเพื่อวิเคราะห์ผลการทำงาน
  6. การทดสอบและการปรับปรุง (Testing & Fine-tuning)
    ในช่วงแรกของการเปิดใช้งานระบบ ควรทำการทดสอบการทำงานจริงเพื่อค้นหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หากพบจุดบกพร่องควรแก้ไขและปรับปรุงทันที
  7. การดูแลและซัพพอร์ต (Maintenance & Support)
    แม้ระบบจะเริ่มทำงานแล้ว ก็ยังต้องมีการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการอัปเดตเวอร์ชัน การสำรองข้อมูล และการแก้ไขบั๊กที่อาจพบในภายหลัง หากมีทีมผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ให้บริการ Odoo โดยเฉพาะ จะช่วยให้การดูแลระบบมีความต่อเนื่องและลดเวลาหยุดชะงักของธุรกิจ

การปรับใช้ Odoo และวิธีรับมือสำหรับเจ้าของกิจการ หรือผู้ดูแลระบบ

แม้ Odoo จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปรับใช้ง่ายไปเสียทุกองค์กร ความท้าทายหลัก ๆ ที่มักพบ ได้แก่

  1. การเลือกโมดูลที่เหมาะสม
    Odoo มีโมดูลให้เลือกมากมาย บางครั้งธุรกิจอาจไม่แน่ใจว่าจะใช้โมดูลไหนบ้างหรือใช้งานแล้วจะตรงกับความต้องการจริงหรือไม่ การวิเคราะห์กระบวนการภายในธุรกิจอย่างละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องนี้
  2. การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management)
    การเปลี่ยนจากระบบเก่ามาใช้ ERP ใหม่อย่าง Odoo อาจทำให้พนักงานเกิดความสับสนหรือไม่คุ้นชิน ควรมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง จัดอบรมและให้คำแนะนำ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจประโยชน์ของระบบใหม่และร่วมมือกันปรับตัว
  3. การปรับแต่งเชิงเทคนิค
    ถึงแม้ Odoo จะเป็น Open Source ที่ปรับแต่งได้ง่ายกว่า ERP เชิงพาณิชย์ แต่กระบวนการปรับแต่งก็ควรให้ผู้เชี่ยวชาญทำ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดหรือบั๊กที่จะกระทบการทำงานในระยะยาว
  4. ทรัพยากรในการบำรุงรักษา
    การติดตั้งระบบครั้งแรกอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังต้องเผื่อค่าใช้จ่ายและทรัพยากรสำหรับการอัปเกรด การสำรองข้อมูล การแก้ไขปัญหา รวมถึงการอัปเดตโมดูลให้รองรับเวอร์ชันใหม่ ๆ อยู่เสมอ

เมื่อเตรียมตัวอย่างถูกต้องและวางแผนอย่างเหมาะสม Odoo สามารถเป็นระบบที่จะยกระดับการจัดการทั้งองค์กร ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีความแม่นยำ รวดเร็ว และนำมาซึ่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดด


TECHLEADERS ให้บริการด้าน Odoo: ครบวงจรตั้งแต่คำปรึกษาจนถึงซัพพอร์ต

สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับใช้ Odoo แต่ยังขาดความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคหรือต้องการที่ปรึกษาเพื่อบริหารโครงการ ให้ดำเนินการได้อย่างราบรื่น สามารถใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Odoo ได้ ซึ่งบริการเหล่านี้มักประกอบด้วย

  1. ให้คำปรึกษา (Consulting)
    ผู้ให้บริการจะทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของคุณอย่างละเอียด เพื่อเสนอแนวทางการนำ Odoo มาใช้ให้ตรงกับเป้าหมายและกลยุทธ์
  2. การวางระบบและติดตั้ง (Implementation & Deployment)
    ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเลือกโครงสร้างระบบ เซิร์ฟเวอร์ หรือโซลูชัน Cloud ที่เหมาะสม ติดตั้งโมดูลเริ่มต้น ปรับแต่ง และตั้งค่าการเชื่อมโยงข้อมูลให้ตรงตามความต้องการ
  3. การปรับแต่งเฉพาะทาง (Customization)
    หากธุรกิจมีเงื่อนไขพิเศษหรือฟังก์ชันเฉพาะ ผู้ให้บริการจะทำการปรับแต่งหรือเขียนโมดูลใหม่ ด้วยการเขียนโค้ดหรือปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ เพื่อให้รองรับการทำงานได้อย่างสมบูรณ์
  4. การฝึกอบรมและคู่มือ (Training & Documentation)
    ผู้ให้บริการจะจัดทำสื่อการฝึกอบรม ทั้งรูปแบบการสอนแบบเผชิญหน้า (On-site) และการเรียนรู้ออนไลน์ ตลอดจนคู่มือ (Manual) ที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง
  5. การดูแลและซัพพอร์ต (Maintenance & Technical Support)
    แม้ระบบจะออนไลน์ใช้งานได้แล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีการเฝ้าติดตาม อัปเดตซอฟต์แวร์ กำจัดบั๊ก รวมถึงปรับแต่งระบบเพิ่มเติมตามสภาวะตลาดหรือการเติบโตของธุรกิจ
  6. การอัปเกรด (Upgrade Service)
    เมื่อ Odoo ออกเวอร์ชันใหม่ ผู้ให้บริการจะช่วยอัปเกรดระบบโดยตรวจสอบว่าโมดูลเดิมหรือฟังก์ชันที่ปรับแต่งไว้ยังทำงานได้ หรือหากจำเป็นต้องแก้ไขส่วนใด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหยุดชะงักในกระบวนการทำงาน

ประโยชน์จากการจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือบริษัทที่ให้บริการ Odoo

แม้ Odoo จะเปิดให้บุคคลทั่วไปดาวน์โหลดและติดตั้งได้ฟรี แต่การจ้างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์หลายประการ อาทิ

  • ประหยัดเวลาในการเรียนรู้: การติดตั้งและปรับแต่ง Odoo อาจใช้เวลาและทรัพยากรภายในทีมมาก หากไม่มีผู้มีประสบการณ์โดยตรง การจ้างผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ระบบพร้อมใช้งานได้เร็วขึ้น
  • ลดความผิดพลาด: ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมา ผู้เชี่ยวชาญสามารถคาดการณ์ปัญหาและป้องกันความเสี่ยงได้ล่วงหน้า ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาภายหลัง
  • งานปรับแต่งที่ตรงจุด: บริษัทให้บริการ Odoo มักจะมีนักพัฒนาที่สามารถเขียนโค้ดหรือปรับแต่งโมดูลได้ตามความต้องการของธุรกิจเฉพาะทาง ทำให้ได้ระบบที่ตอบโจทย์และพร้อมใช้งานจริง
  • บริการซัพพอร์ตอย่างมืออาชีพ: เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อขัดข้องใด ๆ ธุรกิจสามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอหาคำตอบเองจากชุมชนหรือใช้เวลามากกับการวิเคราะห์โค้ด

ตัวอย่างกรณีศึกษาความสำเร็จของการใช้ Odoo

มีองค์กรจำนวนมากทั่วโลกที่หันมาใช้ Odoo และประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น

  • ธุรกิจค้าปลีก: ใช้โมดูลขาย สต๊อก และบัญชี ทำให้ทราบยอดคงคลังแบบเรียลไทม์ และประมวลผลการขายได้อย่างแม่นยำ ลดเวลาในการออกบิลและลดสต๊อกค้างเกินจำเป็น
  • ธุรกิจการผลิต: ใช้โมดูล Manufacture และ Inventory เพื่อวางแผนการผลิตตามความต้องการที่แท้จริง เชื่อมต่อกับระบบขายและจัดซื้อ ทำให้สามารถคาดการณ์วัตถุดิบที่ต้องใช้ล่วงหน้า ลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต
  • ธุรกิจ E-commerce: ผสาน Odoo เข้ากับระบบร้านค้าออนไลน์ จัดการคำสั่งซื้อ การชำระเงิน สต๊อกสินค้า การส่งของ รวมถึงระบบบัญชีได้ในแพลตฟอร์มเดียว ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและลดภาระงานหลังบ้าน

ตัวอย่างเหล่านี้ช่วยยืนยันว่า Odoo เป็นระบบ ERP ที่สามารถปรับใช้ได้จริงในสถานการณ์ต่าง ๆ และมอบผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมให้กับองค์กร ทั้งในเชิงคุณภาพการทำงานและเชิงตัวเลขของผลกำไร

แนวทางเลือกผู้ให้บริการ Odoo ที่เหมาะสม

หากคุณกำลังมองหาบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งและดูแล Odoo ต่อไปนี้คือแนวทางเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจ

  1. ประสบการณ์และชื่อเสียง: ตรวจสอบผลงานที่ผ่านมา หรือตัวอย่างกรณีศึกษาของลูกค้าเดิมว่ามีความสำเร็จอย่างไรบ้าง
  2. ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม: ผู้ให้บริการบางแห่งอาจถนัดเฉพาะบางอุตสาหกรรม หรือมีทีมที่เข้าใจระบบสำหรับธุรกิจประเภทนั้น ๆ เป็นพิเศษ
  3. รูปแบบการทำงานเป็นทีม: ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีทีมงานแบบครบวงจร ทั้งฝ่ายนักวิเคราะห์ระบบ นักพัฒนา และเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ต เพื่อให้ได้บริการที่สอดคล้องกัน
  4. รูปแบบค่าบริการ: เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายรูปแบบต่าง ๆ เช่น ค่าบริการรายชั่วโมง ค่าบริการเหมาจ่าย หรือการคิดเป็นโปรเจกต์ รวมถึงสอบถามการซัพพอร์ตหลังจากการติดตั้ง
  5. การสื่อสารและความรับผิดชอบ: ควรเลือกทีมที่สื่อสารเข้าใจง่าย มีความรับผิดชอบต่อข้อตกลง และให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสตลอดโครงการ

 

Odoo เครื่องมือ ERP ยุคใหม่ และการให้บริการที่ครอบคลุม

Odoo ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในโซลูชัน ERP ที่น่าสนใจในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล ด้วยจุดเด่นที่เป็นระบบ Open Source มีโมดูลครอบคลุมตั้งแต่ CRM การขาย การบัญชี ไปจนถึงการตลาดออนไลน์และ E-commerce ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและต้นทุนที่คุ้มค่าทำให้ Odoo เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงระดับองค์กรใหญ่ การวางแผนติดตั้งระบบให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวิเคราะห์ความต้องการอย่างจริงจัง การกำหนดเวิร์กโฟลว์ที่เหมาะสม และการฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจการใช้งานอย่างลึกซึ้ง

TECHLEADERS เราให้บริการ Odoo แบบครบวงจรจะช่วยให้ธุรกิจไม่ต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่ด้วยตนเอง ลดความเสี่ยงในกระบวนการปรับแต่งและติดตั้ง รวมถึงรับประกันได้ว่าระบบจะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการอัปเดตให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในอนาคต

หากคุณกำลังมองหาโซลูชัน ERP ที่มีความยืดหยุ่น ปรับใช้ได้หลากหลายรูปแบบ และสามารถเติบโตไปพร้อมกับองค์กรได้ Odoo คือคำตอบที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง ด้วยประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการลงทุน ประกอบกับชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาที่แข็งแกร่งทั่วโลก ทำให้ Odoo มีการพัฒนาต่อเนื่องตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ ธุรกิจ SME หรือองค์กรระดับใหญ่ การนำ Odoo ไปประยุกต์ใช้ย่อมช่วยยกระดับการจัดการข้อมูลและกระบวนการทำงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง

สำหรับการเลือกผู้ให้บริการ Odoo มืออาชีพ อย่าลืมพิจารณาด้านประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ การสื่อสาร และรูปแบบบริการ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับการสนับสนุนครบถ้วนตั้งแต่การออกแบบและติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษาในระยะยาว การลงทุนครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการซื้อซอฟต์แวร์ แต่เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่จะอยู่เคียงข้างธุรกิจในระยะยาว ช่วยให้คุณก้าวทันเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเมื่อระบบ ERP ของคุณพร้อมและมีประสิทธิภาพ ธุรกิจของคุณก็จะมีโอกาสสร้างผลลัพธ์เชิงบวก ทั้งในด้านยอดขาย ผลกำไร และความพึงพอใจของลูกค้าสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

TECHLEADERS เราเป็น ตัวแทนจําหน่าย odoo ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ยกระดับธุรกิจของคุณด้วยตัวแทนจำหน่ายที่เชี่ยวชาญในติดตั้งและวางระบบ DATA SERVER ERP และ API Customize เชื่อมต่อกับ ERP ทุกรูปแบบ ด้วยประสบการณ์ให้บริการ Outsource third party มากกว่า 15 ปี 

TECHLEADERS 

  1. เราเชี่ยวชาญในระบบ Odoo ทุกโมดูล
    เราให้บริการ odoo ด้วยความเข้าใจเชิงลึกในทุกฟังก์ชันของ Odoo เราสามารถช่วยคุณปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมและลักษณะเฉพาะของธุรกิจคุณ
  2. เราการวางแผนและปรับแต่งที่ตอบโจทย์
    ธุรกิจแต่ละแห่งมีความต้องการที่แตกต่างกัน ตัวแทนจำหน่ายที่เชี่ยวชาญจะช่วยออกแบบและปรับแต่งระบบ Odoo เพื่อให้รองรับการทำงานของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. บริการตั้งแต่เริ่มต้นจนใช้งานจริง
    เราดูแลคุณตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการของธุรกิจ การติดตั้ง การอบรมพนักงาน ไปจนถึงการสนับสนุนหลังการขาย
  4. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว
    ด้วยการวางระบบที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น คุณสามารถลดความยุ่งยากและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต




นิ้ว Odoo